วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

10 อันดับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่โด่งดังที่สุด


10. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อังกฤษ: Thammasat University; ชื่อย่อ: มธ. - TU) เป็นมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2477 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นตลาดวิชา เพื่อการศึกษาด้านกฎหมายและการเมือง สำหรับประชาชนทั่วไป เมื่อเริ่มก่อตั้งใช้ชื่อว่า มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (อังกฤษ: University of Moral and Political Sciences; ชื่อย่อ: มธก. - UMPS) เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย และมีประวัติศาสตร์ผูกพันกับพัฒนาการทางการเมืองและความเป็นไปของชาติ ตลอดจนเรื่องของรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519

9. มหาวิทยาลัยมหิดล

มหาวิทยาลัยมหิดล มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่การเป็นโรงเรียนแพทย์ ณ โรงศิริราชพยาบาล ชื่อว่า "โรงเรียนแพทยากร" ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2432 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 จึงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ และเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "มหิดล" อันเป็นพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ให้เป็นชื่อมหาวิทยาลัยว่าแทนชื่อมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เดิม

8. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แรกก่อตั้งในปี พ.ศ. 2502 โดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ภายใต้ชื่อ "โรงเรียนเทคนิคพระนครเหนือ" หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า "เทคนิคไทย-เยอรมัน" ก่อนจะยกฐานะเป็น "วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ" ในปี พ.ศ. 2507 และ "สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตพระนครเหนือ" ในปี พ.ศ. 2514 ต่อมาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าทั้งสามวิทยาเขตได้รับการยกฐานะเป็น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ,สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในปี พ.ศ. 2529 โดยมีอำนาจบริหารอิสระจากกัน ซึ่งในปัจจุบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือแบ่งออกเป็น 2 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตกรุงเทพมหานครฯ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานครฯ และ วิทยาเขตปราจีนบุรี ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองฯ จังหวัดปราจีนบุรี

7. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในภาคใต้ของประเทศไทย[ต้องการอ้างอิง] ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2510 ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2510 จึงถือว่าวันที่ 22 กันยายนของทุกปี เป็นวันสงขลานครินทร์ ในระยะแรกของการก่อตั้ง ได้รับนักศึกษาเข้าศึกษาครั้งแรกในคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยใช้อาคารเรียนของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยมหิดล) เป็นสถานที่ศึกษา และปีต่อมา พ.ศ. 2511 ก็เริ่มย้ายนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์มาเรียนที่จังหวัดปัตตานี ในปี พ.ศ. 2514 ย้ายนักศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์มาเรียนที่ วิทยาเขตหาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยาเขตที่ใหญ่ที่สุด พ.ศ. 2520 เปิดวิทยาเขตภูเก็ต พ.ศ. 2533 เปิดวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี และ พ.ศ. 2534 เปิดวิทยาเขตตรัง

6. มหาวิทยาลัยขอนแก่น

มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ที่ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่นเป็นมหาวิทยาลัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งขึ้นและสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัย โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้การศึกษาชั้นสูงขยายออกไปถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งภูมิภาคที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของประเทศ ซึ่งต่อไปจะเป็นผลดีต่อการพัฒนายกฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาคนี้ พระองค์เสด็จฯมาทรงประกอบพิธีเปิดมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2510 และได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2509 ซึ่งถือเป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีอธิการบดีดำรงตำแหน่งมาแล้ว 15 คน อธิการบดีคนปัจจุบัน คือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ.ดร.สุมนต์ สกลไชย

5. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยที่ตั้งขึ้นในส่วน ภูมิภาค และเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เรียกชื่อตามชื่อเมือง ปัจจุบันมหาวิทยาลัยนี้ตั้งอยู่เชิงดอยสุเทพ อำเภอเมือง เชียงใหม่ ขนาบข้างด้วยถนนห้วยแก้ว และถนนสุเทพ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 ก.ม. และมีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่เศษ เปิดทำการสอน เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2507

4. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) หรือที่รู้จักในชื่อ "บางมด" เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาล เดิมชื่อ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัย ดีเลิศ ด้านการวิจัยและ ดีเยี่ยม ด้านการเรียนการสอน โดยการจัดอันดับเพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย ปี 2548 จากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา

3. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ตามพระราชบัญญัติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พ.ศ. 2551 (ยกเลิก ฉบับปี 2528) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้การศึกษา การค้นคว้าวิจัย และการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีเพื่อความก้าวหน้า ทางอุตสาหกรรม และ เศรษฐกิจของประเทศเดิมที สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พ.ศ. 2514 ด้วยการรวม วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ และวิทยาลัยเทคนิคธนบุรี เข้าด้วยกัน โดยแต่ละแห่งมีฐานะเป็นวิทยาเขต วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี เป็นสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าวิทยาเขตนนทบุรี และในปีเดียวกันนั้นได้ย้ายไปที่ อำเภอลาดกระบัง เป็นวิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ประกอบด้วยพระนาม "พระจอมเกล้า" ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานตามพระบรม นามาภิไธย แห่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และมีพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญตรา "พระมหามงกุฎ" มาเป็นสัญลักษณ์แห่งสถาบันฯ ด้วย นับเป็นสิ่งอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นมหามงคลยิ่งส่วนคำว่า "เจ้าคุณทหาร" นั้น มีไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ท่านเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "เจ้าคุณทหาร" ตามที่ ท่านเลี่ยม พรตพิทยพยัต ทายาทของท่านได้แจ้งความประสงค์ไว้ในการบริจาคที่ดิน ที่เป็นที่ตั้งของสถาบันฯ ในปัจจุบัน

2. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรทางด้านการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศ ลำดับที่ 3 นับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีปณิธาณในการก่อตั้งเพื่อเป็นคุณประโยชน์แก่การกสิกรรมและการเศรษฐกิจของประเทศ

1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ถือกำเนิดจาก "โรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน" ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นภายในพระบรมมหาราชวัง เมื่อปี พ.ศ. 2442 พร้อมทั้งพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญ "พระเกี้ยว" มาเป็นเครื่องหมายประจำโรงเรียน การดำเนินงานของโรงเรียนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2459 (ขณะนั้นนับวันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ นับอย่างใหม่ต้องเข้าปี พ.ศ. 2460) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงประดิษฐานขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย และพระราชทานนามว่า "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" เพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์เฉลิมพระเกียรติแห่งพระบาทสมเด็จพระจุล จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมชนกนาถของพระองค์ นับตั้งแต่ พ.ศ. 2460 ถึงปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีผู้บัญชาการและอธิการบดีดำรงตำแหน่งมาแล้ว 16 คน อธิการบดีคนปัจจุบัน คือ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล

แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต เมืองระยองฮิ

ระยอง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ททท.คู่หูเดินทาง และ tat-rayong.com

          ระยอง เมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก ที่ได้รับการขนานนาม ให้เป็นเมืองแห่งกวีศรีรัตนโกสินทร์ "สุนทรภู่" ผู้มีผลงานวรรณกรรมประเภทร้อยแก้วที่ยากจะหา ผู้ใดมาเทียบเทียม โดยเฉพาะนิทานกลอนสุภาพเรื่อง พระอภัยมณี โดยฉากในนิทานเรื่องนี้ คือบริเวณหมู่เกาะน้อยใหญ่ และท้องทะเลที่สวยงามในจังหวัดระยองนั่นเอง

          นอกจากความงดงามของธรรมชาติ ระยอง ยังเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่สำคัญ เป็นแหล่งปลูกผลไม้เมืองร้อนที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะ เงาะ ทุเรียน มังคุด และยังเป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นเขต เศรษฐกิจแห่งใหม่ของประเทศ ทางหลวงสายสำคัญจากทุกภูมิภาคที่มุ่งหน้าสู่เมืองระยอง ถูกจัดสร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคอุตสาหกรรม แต่ขณะเดียวกัน ก็เอื้อประโยชน์ให้การเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดระยอง รวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โรงแรม ร้านอาหาร ที่ได้มาตราฐาน 

          และนี่คือแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน

 เกาะกุฎี (เกาะกุด)

          เป็นเกาะหนึ่งในวรรณกรรม "พระอภัยมณี" ของสุนทรภู่ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเสม็ด ห่างจากฝั่งประมาณ 6 กิโลเมตร มีหาดทรายสวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ แค้มป์ปิ้ง ดำน้ำชมปะการังที่ยังคงความสมบูรณ์และสวยงาม

 เกาะทะลุ

          ห่างจากเกาะกุฎีไปทางทิศตะวันออกประมาณ 6 กิโลเมตร หรือห่างจากเกาะเสม็ด 12 กิโลเมตร มีหาดทรายที่ขาวสะอาด และมีแนวปะการังที่สมบูรณ์อยู่บริเวณโดยรอบ สามารถดำน้ำลึกได้อีกแห่งหนึ่ง


 เกาะเสม็ด (เกาะแก้วพิศดาร)

          ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง ระยอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วย อ่าว และหาดทรายสวยงามมากมาย เช่น หาดทรายแก้ว เป็นหาดทรายที่ยาวและสวยที่สุด ของเกาะ อ่าววงเดือน ซึ่งเป็นหาดที่มีลักษณะโค้งเสี้ยวพระจันทร์ บนเกาะมีที่พัก ร้านอาหาร และกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย

 เขาวง

          เขาวงมีพื้นที่ 4.40 ตารางกิโลเมตร ชาวบ้านมักจะเรียกว่า เขาวงกต เพราะมีภูเขาล้อมวงเป็นชั้นๆ มีโพรงถ้ำที่สลับซับซ้อนคล้ายเขาวงกต มีหน้าผาและชะโงกผาที่สวยงาม ประกอบด้วยถ้ำประมาณ 80 ถ้ำ เช่น ถ้ำเพชร ถ้ำละคร ถ้ำสิงห์โต ถ้ำค้างคาว ถ้ำโรงบ่อน ถ้ำเต่า เป็นต้น แต่ละถ้ำมีความสวยงามแต่งต่างกัน นอกจากนี้บริเวณพื้นที่รอบ ๆ เขาวง ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเลียงผา ที่เป็นสัตว์ป่าสงวน ปัจจุบันเปิดให้ชม 20 ถ้ำ


 เขาแหลมหญ้า

          อยู่เลยบ้านก้นอ่าวไปเล็กน้อย ตามถนนเลียบชายหาด เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ ริมทะเล มีเนื้อที่บางส่วนเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล ปกคลุมด้วยป่าละเมาะ มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นหาดแม่รำพึง และเป็นจุดที่อยู่ใกล้เกาะเสม็ดมากที่สุดอีกด้วย สามารถชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้ที่ท่าเรือศรีวิกา ซึ่งเป็นท่าเรือของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด นอกจากนี้ยังมีบริการบ้านพักและเต็นท์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 038 - 653 - 034

 ตลาดบ้านเพ

          ตลาดบ้านเพ อ.เมือง ระยอง เป็นท่าเทียบเรือประมง สะพานปลา และที่ตั้งท่าเรือไปเกาะเสม็ด เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์อาหารจากทะเลแหล่งใหญ่ของจังหวัดระยอง


น้ำตกเขาชะเมา (น้ำตกคลองน้ำใส)

          น้ำตกเขาชะเมา หรือ น้ำตกธารน้ำใส แยกจากถนนสุขุมวิท กม.274 เลี้ยวซ้ายเข้าไป 16 กิโลเมตร อยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ ลักษณะเป็นธารน้ำใส รองรับน้ำตกขนาดใหญ่ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ประกอบด้วยชั้นน้ำตกที่สวยงามหลายชั้น คือ วังมัจฉา วังมรกต ผากล้วยไม้ ช่องแคบ น้ำตกหกสาย และผาสูง ในชั้นวังมัจฉา มีปลาพลวง ซึ่งเป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ อาศัยอยู่อย่างชุกชุม เป็นจุดดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมี ผาสวรรค์ เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล ระหว่างทางเดินสามารถพบเห็นธรรมชาติที่สวยงาม พันธุ์ไม้นานาชนิด เหมาะแก่การศึกษาธรรมชาติ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 038 - 894 - 378

น้ำตกคลองปลาก้าง

          น้ำตกคลองปลาก้าง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา - เขาวง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีความยาวลดหลั่นกันประมาณ 3 กิโลเมตร น้ำตกคลองปลาก้างมีทั้งหมด 7 ชั้น คือ วังช้างผ่าน ลานผีเสื้อ แอ่งเครือสะบ้า ลานประตูผา ธารเกาะกลาง วังกระชาย ธารสายหมอก ตลอดทั้งสองฝั่งลำธารน้ำตกเป็นป่าดงดิบบริสุทธิ์ มีกล้วยไม้ป่า พืชพื้นล่างจำพวกว่าน เฟิร์น ขึ้นปกคลุมหนาแน่น น้ำตกคลองปลาก้างเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยาน ประกอบด้วยชั้นน้ำตกและวังน้ำต่าง ๆโดยเฉพาะวังช้างข้ามที่เป็นชั้นน้ำตก ขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 038 - 894 - 378

พระเจดีย์กลางน้ำ

          ความงดงามแห่งศรัทธาบนเกาะกลางแม่น้ำระยอง ห่างจากตัวเมืองระยองไปทางใต้ 2 กิโลเมตร เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดระยอง คือ พระศรีสมุทรโภคชัยโชค ชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) เป็นผู้สร้าง ซึ่งใช้เป็นสัญลักษณ์ของชาวเรือว่าได้เดินทางมาถึงเมืองระยองแล้ว ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของวัดปากน้ำ ในวันเพ็ญเดือน 12 จะมีงานประเพณีห่มผ้าพระเจดีย์ แข่งเรือยาวและงานลอยกระทง ซึ่งได้จัดสืบทอดกันมา 60 กว่าปีแล้ว


พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน

          จัดแสดงอยู่ที่วัดบ้านดอน ต.เชิงเนิน อ.เมือง ระยอง มีหนังใหญ่ 120 ตัว อายุกว่า 200 ปี เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดระยอง คือ พระศรีสมุทรโภคชัยโชค ชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) เป็นผู้ถวายไว้ สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์กรุณาติดต่อท่านเจ้าอาวาส


วัดป่าประดู่

          ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในปี พ.ศ.2533 ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ประทับอยู่ในท่าตะแคงซ้าย ซึ่งเป็นพุทธลักษณะพิเศษกว่าพระนอนองค์อื่น ๆ ชาวระยองนิยมมากราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นศิริมงคล

วัดโขดทิมธาราม

          ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าประดู่ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดระยอง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2007 ผู้สร้างชื่อทิม เป็นเจ้าเมืองระยองในสมัยนั้น สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในอุโบสถมีภาพจิตกรรมฝาผนังของช่างฝีมือท้องถิ่น ในพระอุโบสถหลังเก่าอันทรงคุณค่า ซึ่งภาพทั้งหมดเป็นภาพทศชาติชาดก ครบทั้งสิบชาติ และหลวงพ่อขาวที่เป็นที่เคารพสักการะบูชาของชาวระยอง อายุกว่า 500 ปี  มีการจัดงานประจำปี ในวันที่ 13-15 เมษายนของทุกปี
 
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

          อยู่ในบริเวณวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ถนนตากสิน ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง มีต้นสะตือขนาดใหญ่อยู่บริเวณหน้าศาล อายุประมาณ 300 ปี เล่ากันว่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงนำช้างมาผูกไว้ที่ต้นสะตือเมื่อเสด็จผ่านระยองไปเพื่อรวบรวมไพร่พล และตั้งทัพเพื่อเตรียมกู้อิสรภาพที่จันทบุรี ภายในศาลมีรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินในท่าประทับยืน และประทับนั่ง ประดิษฐานอยู่

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง (Rayong Aquarium)

          ตั้งอยู่ริมอ่าวบ้านเพ เป็นสถานที่ศึกษา ทดลอง และวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ทะเลและพรรณไม้น้ำ อีกทั้งเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำที่สวยงามและหายาก รวมทั้งความรู้ด้านทรัพยากรสัตว์ทะเลและการประมง โดยแบ่งการจัดแสดงเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำมีชีวิต พันธุ์ไม้น้ำของไทย และมีอุโมงค์ทางเดินใต้ทะลจำลองสัมผัสกับสัตว์ทะเลอย่างใกล้ชิด ส่วนจัดแสดงนิทรรศการ และส่วนจัดแสดงพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-ศุกร์ เวลา 10.00-16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-17.00 น. ปิดวันจันทร์-อังคาร


สวนสน หรือ สวนรุกขชาติเพ

          อยู่ถัดจากบ้านเพ และท่าเรือเกาะเสม็ด ตามถนนเลียบชายหาด สวนสน หรือ สวนรุกขชาติเพเป็นชายหากที่เหมาะแก่การเล่นน้ำ บรรยากาศร่มรื่นด้วยทิวสนทะเลตลอดสองข้างทาง ให้คุณรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังเป็นจุดชมวิวเกาะเสม็ดที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง

สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

          ตั้งอยู่บริเวณศูนย์บำรุงรักษาและบ้านพัก ปตท. บนถนนทางหลวงหมายเลข 3191 ต.มาบข่า กิ่งอ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เปิดทำการวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์) เป็นสวนที่ทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด มิติการเรียนรู้ด้านสมุนไพรอย่างสนุกสนาน เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 20,000 ต้น (260 ชนิดโดยจัดกลุ่มจำแนกตามสรรพคุณการรักษาตามคัมภีร์ยาไทยโบราณ 20 กลุ่มอาการ) เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม พักผ่อนหย่อนใจ และศึกษาหาความรู้ด้านพฤษศาสตร์และสมุนไพร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ โทร.038-915213-5 โทรสาร. 038-915216

หมู่เกาะมัน

          ประกอบด้วย 3 เกาะ คือ เกาะมันใน เกาะมันกลาง และเกาะมันนอก เกาะมันใน - เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ โดยมีพระราชประสงค์ให้เกาะมันในเป็นที่ดำเนินโครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล โดยให้หน่วยงานกรมการประมง และกองทัพเรือดำเนินงานในโครงการ

          บนเกาะมีต้นไม้นานาพันธุ์ และนกนานาชนิด บริเวณทางเดินหน้าชายหาดไปยังบ่อเต่าทะเล มีแนวต้นมะพร้าวสลับกับต้นป่านศรนารายณ์เรียงกันเป็นแนวสวยงาม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ม.6 ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง โทรศัพท์ 038 - 657 - 699,038 - 657 - 383 เกาะมันกลาง และเกาะมันนอก – เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยงาม เงียบ สงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน มีบ้านพักของเอกชนไว้บริการ 


หอพระพุทธอังคีรส

          เป็นอาคารทรงไทย หลังคาจัตุรมุข อันเป็นที่ประดิษฐานของ "พระพุทธอังคีรส" ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองระยอง ตั้งอยู่ในบริเวณสวนศรีเมือง ชาวเมืองนิยมเรียกว่า "เกาะกลาง" ตั้งอยู่กลางเมือง ด้านหลังที่ทำการเทศบาลนครระยอง มีเนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ และสวนสุขภาพสำหรับประชาชน

หาดพยูน หาดพลา หาดน้ำริน

          ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านฉาง เป็นหาดที่มีความสวยงาม สงบ ร่มรื่นด้วยสวนสนทะเล เหมาะแก่การพักผ่อน มีที่พัก และร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว และบริเวณหาดน้ำริน ยังมีหินแกะสลักเป็นรูปครอบครัวพยูนขนาดใหญ่ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย

หาดแม่รำพึง - บ้านก้นอ่าว

          อยู่ห่างจากตังเมืองระยองประมาณ 11 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิทมีทางแยกขวา(กม.229) เข้าหาดแม่รำพึง ชายหาดมีความยาว 12 กิโลเมตร ถนนเลียบหาดมีความยาว 10 กิโลเมตร ชายหาดสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ มีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวมากมาย บริเวณสุดหาดเป็นที่ตั้งของบ้านก้นอ่าว ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้าน

หาดแสงจันทร์

          ตั้งอยู่ตำบลปากน้ำใหม่ ห่างจากตัวเมืองระยอง 7 กิโลเมตร เป็นชายหาดติดต่อกับหาดแหลมเจริญ สามารถเล่นน้ำทะเลได้ มีร้านอาหาร และที่พักไว้บริการ

หาดแหลมเจริญ

          ตั้งอยู่ใกล้ปากน้ำระยอง ห่างจากตัวเมืองระยองมาทางใต้ 5 กิโลเมตร ติดกับหาดแสงจันทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลที่อยู่ใกล้ตัวเมืองระยองมากที่สุด เป็นแหล่งผลิตน้ำปลาที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวประมง นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายอาหารทะเล ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปรับประทานอาหารในช่วงเย็นด้วย


แหลมแม่พิมพ์

          ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแกลง ห่างจากตัวเมืองระยอง 48 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิทมีทางแยกขวาไปแหลมแม่พิมพ์ได้หลายเส้นทางด้วยกัน ธรรมชาติสวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ มีบริการที่พักและร้านอาหารตลอดแนวชายหาด


อนุสาวรีย์สุนทรภู่

          ตั้งอยู่เลยแหลมแม่พิมพ์ไปทาง อ.แกลง ประมาณ 5 กม. เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงท่านสุนทรภู่ กวีศรีรัตนโกสินทร์ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน

อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา - เขาวง

          ห่างจากตัวอำเภอแกลง 20 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวเมืองระยอง 71 กิโลเมตร มีสภาพป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำที่สำคัญของจังหวัดระยอง มีสัตว์ป่าชุกชุม และมีธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตก หน้าผา ถ้ำ ทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม แวดล้อมไปด้วยป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้จำพวกว่านต่าง ๆ ขึ้นอยู่ทั่วไป เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญ คือ ปากน้ำประแสร์ สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในอุทยานแห่งชาตินี้ได้แก่ น้ำตกเขาชะเมา น้ำตกคลองปลาก้าง และเขาวง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 3889 4378 

อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด

          ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเพ ห่างจากตัวเมืองระยอง 20 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่บนฝั่งและในทะเล ตลอดจนเกาะต่างๆ ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอแกลง มีสถานที่น่าสนใจ คือ หาดแม่รำพึง บ้านก้นอ่าว เขาแหลมหญ้า จุดชมพระอาทิตย์ตกท่าเรือศรีวิกา เกาะเสม็ด

ปากน้ำประแส

           ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จากอำเภอแกลงเดินทางมาทางด้านทิศตะวันออกตามถนนสุขุมวิทประมาณ 12 กิโลเมตร จะพบสามแยกประแส แล้วเลี้ยวขวาเข้ามายังปากน้ำประแส ตำบลปากน้ำกระแส เป็นชุมชนริมแม่น้ำตั้งแต่สมัยอยุธยา มีแม่น้ำประแสกั้นเขตตำบล มีลำคลองลงสู่ทะเล มีการทำนากุ้ง เลี้ยงปลาน้ำกร่อย ส่วนริมฝั่งแม่น้ำประแส มีท่าเรือประมงขนาดใหญ่ บริเวณปากแม่น้ำเป็นชุมชนหนาแน่น เป็นแหล่งการค้า ชาวบ้านทำเกษตร ประมงพื้นบ้าน เลี้ยงปลาเก๋า เลี้ยงปลาในกะชัง ประมงทะเลลึก ผลิตภัณฑ์ทางการประมง

          นอกจากนี้ ยังมี สะพานชมป่าชายเลน เป็นสะพานไม้สร้างจากเงินกองทุนหมู่บ้าน ทอดแนวยาวลัดเลาะไปตามแนวต้นโกงกาง พาดผ่านไปบนยอดต้นโปรงสีเขียวตองอร่ามตา ไปบรรจบกับปลายสะพานทุ่งโปรงทอง โดยสะพานแห่งนี้ทอดไปสิ้นสุดที่ทะเลประแส และ สะพานป่าชายเลนบ้านหัวโขด โดยชุมชนชาวปากน้ำประแสร่วมกันสร้างไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้เกี่ยว กับวงจรชีวิตของธรรมชาติป่าชายเลน รวมถึงมี แพชมหิ่งห้อย ให้ได้ล่องเรือดูหิ่งห้อยปากน้ำประแสร์ชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำ ในพื้นที่มีบ้านพักและโฮมสเตย์ของเอกชนไว้รองรับนักท่องเที่ยว